เทคนิคบริหารคน เพื่อลดปัญหาภายในร้าน

ความสำเร็จในการทำธุรกิจร้านอาหารนั้นประกอบไปด้วยหลากหลายเหตุผลมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นรสชาติอาหารที่มีเอกลักษณ์ ถูกปากกลุ่มลูกค้าการออกแบบร้านและ
บรรยากาศตรงใจกลุ่มลูกค้า การบริการที่จะทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจจนอยากกลับมาอีกครั้ง
แน่นอนว่าทั้งหมดจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่มีฟันเฟืองที่สำคัญในการขับเคลื่อนร้านนั้นก็คือ “พนักงาน”

ว่ากันว่าได้ “พนักงานดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” ฟังดูเหมือนเรื่องตลก แต่หากใครเคยทำร้านอาหารมา
จะรู้ดีว่าหากได้พนักงานที่ดี (ทัศนคติดี+ความสามารถดี) มาอยู่ร่วมกับร้านเราแล้วนั้น
ความปวดหัวในการทำร้านอาหารจะลดลงไปกว่าครึ่งของปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดภายในร้าน
เพราะปัญหาครึ่งหนึ่งภายในร้านเริ่มต้นมาจากเรื่องของพนักงานนั้นเอง เช่น

มาสายบ่อย ไม่ทำงานตามมาตรฐานร้าน ชอบมีวิถีการทำงานในฉบับตัวเองขาดงาน
ชอบเล่นมือถือในเวลาทำงาน ไม่ใส่ใจลูกค้า หน้าบึ้งตึง ไม่เชียร์ขายของทานเล่น
ชอบยืนคุยเล่นกันเอง ทำงานช้าเกินไป และอื่นๆ อีกสารพัด
ซึ่งปัญหาที่เกิดจากพนักงานนั้นมีเกือบทุกที่และทุกธุรกิจจะมากหรือจะน้อยก็ว่ากันไป
แล้วอย่างนี้มีวิธีไหนที่จะทำให้พนักงานไม่กลายเป็นตัวปัญหาบ้าง
คำตอบคือมี ถ้าทำตามวิธีการที่จะบอกต่อไปนี้จะช่วยลดปัญหาต่าง ๆ ภายในร้านไปได้
หรือหากเกิดปัญหาก็จะมีวิธีจัดการอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลามไปกันใหญ่

Step 1 : กำหนดกฎระเบียบวินัยต่างๆ

ต้องทำให้ชัดเจนตั้งแต่แรกและถูกต้องตามหลักกฎหมายแรงงานของไทยด้วย เรื่องที่ต้องกำหนดได้แก่

– รูปแบบการตัดรอบเงินเดือน การจ่ายเงินผ่านช่องทางใดทุกวันที่เท่าใด

– รูปแบบการลาที่ร้านมีกี่แบบ แต่ละแบบลาได้กี่วันต่อปี และจะได้รับเงินหรือไม่
และเริ่มได้สิทธิการลาตั้งแต่เริ่มทำงานหรือเริ่มผ่านการทดลองงาน หรือครบ 1 ปี

– รูปแบบบทลงโทษต่างๆ ในกรณีที่ทำผิดต่างๆ  ซึ่งต้องแบ่งเป็นโทษเบาโทษหนักที่แตกต่างกันออกไป

– รูปแบบวิธีการคำนวณเงินโอที, สวัสดิการต่างๆ ของร้านที่มีให้แก่พนักงาน

– รูปแบบการแต่งกายที่ถูกต้อง และเงื่อนไขการทำงานต่างๆ เป็นต้น

สิ่งเหล่านี้หากไม่กำหนด ก็มักจะเกิดปัญหาตามมาภายหลัง คือ “2มาตรฐาน” ในการปกครองนั้นเอง

Step 2 : กำหนดคุณลักษณะและหน้าที่การทำงานของแต่ละตำแหน่ง

เช่น พนักงานเสิร์ฟต้องมีคุณลักษณะเป็นอย่างไรบ้าง ต้องการอายุเท่าไรเพศอะไร วุฒิการศึกษาจำเป็นหรือไม่ในการรับสมัคร
และหน้าที่หลักหน้าที่รองของตำแหน่งพนักงานเสิร์ฟมีอะไรบ้าง ทั้งหมดนี้ที่ต้องกำหนดไว้ก็เพื่อความชัดเจนในการทำงาน
ให้กับพนักงานที่จะเข้ามาในตำแหน่งนั้นๆและใช้วัดผลการทำงานของพนักงานในแต่ละเดือนอีกด้วย

 

Step 3 : กำหนดขั้นอัตราเงินเดือนในแต่ละตำแหน่ง

เช่นพนักงานเสิร์ฟ กำหนดขั้นอัตราเงินเดือนอยู่ที่ 10,000 – 12,000 บาท โดยให้หมายเหตุไว้ว่า
พนักงานที่ไม่มีประสบการณ์เลยจะได้เงินเดือนอยู่ที่ 10,000บาทพนักงานที่มีประสบการณ์มา 6เดือน – 1ปี
จะได้เงินเดือนอยู่ที่ 11,000บาทพนักงานที่มีประสบการณ์ 1 ปีขึ้นไป และมีฐานเงินเดือนจากที่เก่ามาสูงกว่า 12,000 บาท
แต่มีทักษะทำงานได้ตำแหน่งเดียวไม่มีทักษะทำตำแหน่งอื่น ๆ เลยจะได้เงินอยู่ที่ 12,000บาท แต่หากมีทักษะทำได้หลายตำแหน่ง
เช่น งานครัว บาร์น้ำ เสิร์ฟ อาจพิจารณาขั้นเงินเดือนมากกว่า 12,000บาทเป็นกรณีพิเศษ เป็นต้น

การกำหนดขั้นอัตราเงินเดือนนี้เป็นประโยชน์ในการบริหารค่าแรงอีกด้วย

 

Step 4 : กำหนดอัตรากำลังพลที่ร้านต้องมี

เช่น ทีมผู้จัดการร้าน พนักงานเสิร์ฟ พนักงานรับออเดอร์ พนักงานแคชเชียร์ หัวหน้าครัว พนักงานหน้าเขียง
พนักงานหน้าเตาไทย พนักงานหน้าเตาฝรั่งพนักงานล้างจาน ทั้งหมดนี้ในแต่ละตำแหน่งต้องมีกี่คนถึงจะเพียงพอต่อการทำงาน

 

Step 5 : กำหนดสายงานความก้าวหน้าในการทำงาน

เพราะ สาเหตุหนึ่งในการลาออกก็คือ อยู่ไปแล้วไม่มีความก้าวหน้าทำให้พนักงานที่อยู่มาสักพักก็จะลาออกไป
ดังนั้นผู้ประกอบการควรจะกำหนดไว้เลยว่าทำงานในตำแหน่งนี้ครบกี่เดือนกี่ปี จะมีสิทธิสอบเพื่อปรับตำแหน่ง
และเงินเดือนโดยมีเงื่อนไขอะไรบ้างในการได้สิทธิสอบ เป็นต้น

 

หากทำ 5 ข้อนี้ได้ จะช่วยลดปัญหาในการบริหารพนักงานได้สิ่งสุดท้ายที่ฝากไว้ในการบริหารพนักงาน
เพื่อลดปัญหาก็คือการที่เจ้าของทุกคนควรมองพนักงานตัวเองให้เหมือนคนในครอบครัวเชื่อว่าพวกเขาพัฒนาได้
และสามารถสร้างเขาให้เป็นพนักงานที่ดีได้หากเราไม่มีความเชื่อเหล่านี้ ก็ยากที่จะพัฒนาพวกเขาให้เป็นพนักงานที่ดี
และหากวันๆ เอาแต่นั่งจับผิด เชื่อเถอะว่าพนักงานเขารู้สึกได้ว่าเราไม่ไว้ใจเขา และสักวันหนึ่งหากเขามีที่ไปเขาจะไปจากเราทันที

 

Leave A Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *